ขึ้นกระเช้าไปไหว้พระใหญ่ นองปิง (Ngong Ping)

4076
views

วันสุดท้ายใน Hongkong เราต้องขึ้นเครื่องกลับในช่วงเย็น 17:05 น. จะต้องถึงสนามบินประมาณบ่ายสองเผื่อไว้ ส่วนที่เที่ยวคำนวณเวลาแล้วไปขึ้นกระเช้านองปิงน่าจะดีที่สุดเพราะอยู่ใกล้สนามบินและมีที่ฝากกระเป๋าด้วย

นองปิง (Ngong Ping) นับว่าเป็นไฮไลท์ของฮ่องกงที่หนึ่งเลยก็ว่าได้ ถ้าใครมาฮ่องกงแล้วถ้าไม่ได้ไปที่นี่ก็คงเหมือนมาไม่ถึงฮ่องกงแน่ แต่การจะไปนองปิงแบบขึ้นกระเช้าก็ต้องเช็ควันที่ที่เปิดทำการก่อนนะ เพราะจะช่วงที่ปิดปรับปรุงและช่วงที่สภาพอากาศไม่เป็นใจด้วย

หลังจากที่เช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมแล้วก็นั่ง MTR ไปสุดสายที่สถานี Tung Chung ประมาณ 45 นาทีโผล่ขึ้นมาก็เป็นห้าง City Gate Outlet ตรงนี้ก็เป็น Bus terminal ด้วย ตอนเรามาถึงฮ่องกงก็นั่งรถ Bus มาต่อรถไฟที่นี่ส่วนขากลับก็เช่นกันนั่งรถ Bus จากตรงนี้ไปได้เลย

ฮ่องกง city gateห้างเปิด 10:00 น. เราเอากระเป๋าไปฝากที่ Locker ชั้นใต้ดินของห้าง

มาตอนห้างเปิดพอดีทำให้บางร้านยังไม่เปิดเลย แต่ก็ไม่เป็นไรเราไม่ได้เพื่อสิ่งนี้เรามาเพื่อฝากกระเป๋าต่างหาก เข้าในห้างแล้วก็ลงบันไดเลื่อนไปที่ชั้นใต้ดินมีป้ายบอกตรงบันไดเลื่อนว่า Locker Service

หน้าตาของที่ฝากกระเป๋าก็จะประมาณนี้ เลือกภาษา, จำนวนชั่วโมงแล้วก็ขนาดของช่อง สามารถจ่ายเงินสดและบัตร Octopus เสร็จแล้วเราก็จะได้ใบเสร็จมาพร้อมกับมี QR Code มาให้ อย่าทำให้หายเชียวนะเพราะต้องเอาไว้ใช้ตอนมาเอากระเป๋าคืน

หลังจากฝากกระเป๋าเรียบร้อยแล้วก็เดินมาทางด้านหลังเพื่อไปขึ้นกระเช้า จะมีป้ายบอกทางไปตลอดทาง เดินจนมาเจอบันไดเลื่อนทางขึ้นไปกระเช้าตรงบันไดทางขึ้นก็จะมีข้อความต้อนรับหลายภาษารวมถึงมีภาษาไทยด้วย

เดินตามช่องทางที่เจ้าหน้าที่จัดไว้ให้ ระหว่างทางเดินก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกอยู่ ตอนที่มาก็ถือว่าไม่ได้เช้ามากนักท่องเที่ยวก็เยอะพอสมควรต่อคิวยาวเลย

ช่องทางซื้อตั๋วก็จะมีช่องสำหรับที่ซื้อ Voucher มาแล้ว และมาซื้อที่นี่เลย ส่วนเราซื้อ Voucher มาแล้ว ก็เดือนไปเข้าช่องพิเศษได้เลย ก็ไม่ต้องเสียเวลาต่อคิวยาวๆ

เพลิน ฮ่องกง นองปิง

หลังจากที่นำ Voucher ไปเปลี่ยนไปตั๋วมาแล้วสิ่งที่ได้มาด้วยคือตั๋วขึ้นกระเช้า, สายรัดขัดมือที่บอกว่าเรานั่งกระเช้าประเภท Crystal,  พัดแล้วก็แผ่นพับ Infomation ต่างๆ  แล้วก็เราก็เดินไปช่อง Crystal Cabin

ระหว่างนี้ก็รอคิวขึ้นกระเช้า นักท่องเที่ยวส่วนมากจะมาเป็นกลุ่มใหญ่ บางทีถ้าเค้าไม่ได้นั่งกระเช้าเดียวกันเค้าก็ยังไม่ไป เจ้าหน้าที่ก็จะเรียกว่าใครจะไปบ้างถ้าเราสะดวกที่จะไปเราก็ยกมือก็ไปได้เลย

กระเช้าที่เราเลือกเป็นกระเช้าแบบพื้น Crystal ใส สามารถมามองเห็นด้านล่างได้

ระหว่างทางไปก็ชมวิวไปเรื่อยๆ โดยกระเช้าจะพาเราข้ามอ่าวและภูเขาหลายลูก

แต่ถ้าใครชอบเดินก็สามารถเดินได้นะ แบบสัมผัสธรรมชาติแบบใกล้ชิด มองจากบนกระเช้าแล้วจะเห็นทางเดินสำหรับไปนองปิงด้วย

มองเห็นสนามบินทั้งสนามบินเลย

นั่งมาประมาณ 20 นาที ก็มองเห็นพระใหญ่อยู่ไกลแล้วๆ

Ngong Ping

มาถึงตอนออกจากกระเช้าก็จะมีเจ้าหน้าที่มาถ่ายรูปเราเก็บไว้เพื่อเอาไปติดจานไว้ขายเราตอนกลับ  เดินลงมาด้านล่างมีที่ให้ถ่ายรูปมากมายเรียกว่าหมู่บ้านนองปิง เป็นบรรณยากาศวัฒนธรรมของจีนจะมีส่วนของการจัดแสดงรวมถึงร้านอาหารไปตลอดทาง

Stage 360 Motion 360  เป็นการฉายหนัง 3 มิติของศิลปะการต่อสู้แบบจีน ใครชอบบู๊ๆ ก็จัดเลย มีแสดงเป็นรอบๆ และมีค่าใช้จ่าย

Walking with Buddha เป็นการฉายการ์ตูนแอนิเมชั่นเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าตั้งแต่ประสูติ

ซุ้มประตู Po Lin Monastery หรือเรียกว่า “the Big Thatched Hut” เป็นประตูทางเข้าหลักก่อนที่จะไปยังพระใหญ่

ตรงลานวงกลมนั้นเราสามารถไปยืนตรงกลางหันหน้าไปทางพระใหญ่แล้วก็ขอพรได้ตามตั้งการ

ทางขึ้นองค์พระใหญ่มีบันไดประมาณ 268 ขั้น

องค์พระใหญ่ (The Big Buddha) หรือมีอีกชื่อคือ องค์พระเทียนถาน (Tian Tan Buddha) มีความเชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์ขอพรสิ่งใดก็จะสมความปราถนา องค์พระทำจากทองสัมฤทธิ์ประมาณ 250 ตัน สูงประมาณ 34 เมตร

หลังจากที่ขึ้นไปกราบพระเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลากลับ เราใช้เวลาอยู่ที่นี่ไม่นานเท่าไหร่ เพราะยังไม่ได้กินข้าวกันเลยตั้งแต่เช้าแล้วก็ต้องกลับไปขึ้นเครื่องอีก

ตอนขากลับกระเช้าก็เป็นของเราทั้งหมดเลย ทีนี้ก็หันไปถ่ายรูปได้สะดวกทุกองศาเลย จะลงมานั่งพื้นเพื่อถ่ายรูปก็ไม่มีปัญหา

พอมาถึงเจ้าหน้าที่ก็มาขายรูปที่ถ่ายเราไว้เมื่อตอนขึ้นไปถึงข้างบนใครชอบก็ซื้อถ้าไม่ชอบก็ผ่านไป จากนั้นก็หาข้าวกินในห้าง City Gate Outlet นี่แหละง่ายดี มีอยู่หลายร้านให้เลือกเลย แล้วก็จบที่อาหารเกาหลีซะงั้น

หลังจากทานข้าวเที่ยงเรียบร้อย ต่อไปก็คือช้อปๆๆๆๆ ที่นี่เป็น Outlet ก็มีร้านค้ามากมายทั้งแบรนด์เนมที่เรารู้จักกันดีแล้วก็ของพื้นที่ด้วย ราคาก็กลางๆ บางอย่างก็ถูก บางอย่างก็แพง คุณนายแม่ก็พุ่งไปหากระเป๋าราคาก็พอรับได้ ส่วนเรานั้นก็ได้รองเท้ามาหลายคู่ ซึ่งถูกกว่าเมืองไทยหลายพันบาทเลย

ถึงเวลากลับก็ไปเอากระเป๋าด้านล่างที่ฝากไว้ พยายามจัดสรรเวลาให้พอดีกับที่ฝากกระเป๋าไว้จะได้ไม่โดนชาร์ท เอากระเป๋าเสร็จก็เดินไปทางหลังห้างที่เป็น Bus Terminal ขึ้นรถบัสสาย S1 ไปสนามบินได้เลย ใช้เวลาไม่นานประมาณ 15 – 20 นาที

ถึงสนามบินเราบินสายการบินคาร์เธ่ย์แปซิฟิคทำการเช็คอินออนไลน์เลือกที่นั่งมาแล้ว สามารถทำการเช็คอินล่วงหน้าได้ 24 ชั่วโมง เราก็เข้าช่อง Check in online ได้เลยเพื่อ Drop กระเป๋า ส่วนใครไม่มีกระเป๋าหรือยังไม่ได้เช็คอินก็สามารถทำการเช็คอินที่ตู้ Kios ได้เลย มีอยู่มีมากมายหลายตู้เลยสะดวกมากๆ

Hongkong

 

1 COMMENT

Comments are closed.