ได้ไปเที่ยวฮ่องกงครั้งนี้ด้วยความโชคดีร่วมสนุกกับ Application Open Snap จนได้ตั๋วเครื่องบินฟรี 2 ใบ ไหนๆ ก็จะวันเกิดแม่แล้วก็เลยถือโอกาสพาแม่ไปเที่ยวซะเลยก่อนจะไปก็ต้องเตรียมตัวหาข้อมูลกันก่อนว่าจะไปที่ไหนกันบ้าง การเดินทางยังไง เรียกว่าวางแผนผ่าน Google map เลย
เพราะไปกันแค่ 3 วันแค่นั้น อย่างแรกเลยไปฮ่องกงจะต้องไปไหว้พระใหญ่ที่นองปิง ซึ่งกระเช้าก็ไม่ได้เปิดตลอดทั้งปี เราเช็คก่อนว่าวันที่เราจะไปกระเช้าเปิดอยู่รึเปล่า ผ่านทางเว็บไซต์ http://www.np360.com.hk/en/ สามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้เลย ราคาก็จะถูกกว่าซื้อหน้างาน หรือซื้อผ่าน Agent ที่เมืองไทยซึ่งเราก็ใช้วิธีนั้น
เว็บไซต์ที่ให้เราหาข้อมูลและจองตั๋วต่างๆ ล่วงหน้าก็มีมากมายหลายเว็บเช่น www.hongkongfanclub.com, www.hongkongpackage.net หรืออันสุดท้ายที่เราซื้อทั้งตั๋วไปนองปิง และ Sim Card คือ www.hongkongpackage.net จริงๆ รถรางที่ใช้ขึ้น Peak ก็น่าสนใจ แต่ก็มีพี่แนะนำว่ามันใช้เวลาต่อคิวนานมาก ยิ่งช่วงเวลาที่เราไปเป็นช่วง Sale ทั้งเกาะคนจะเยอะมาก อาจจะทำให้เสียเวลา นั่งรถบัสไปก็ใช้เวลาแค่นิดเดียวก็เลยตัดใจสินไม่ซื้อละกันส่วน Pass รถไฟก็ไม่ได้ซื้อเพราะไม่คุ้มสำหรับเราเติมเงินถูกกว่า
สิ่งที่สั่งซื้อมามีตั๋วไปกลับกระเช้านองปิงแบบคริสตัล ก็คือเป็นตู้กระจกทั้งตู้ คนละ 800 บาท และ Sim Card 420 บาท คราวนี้ที่เราซื้อ Sim Card เพราะว่าเราเดินทางกันเองจริงๆ 2 แม่ลูกหลงมานี่แย่เลย คราวที่แล้วๆ มา จะมีคนพาไปตลอด เลยไม่จำเป็นต้องติดต่อสื่อสาร หรือหาข้อมูลอะไรระหว่างทาง
ขั้นต่อมาจองโรงแรม หาข้อมูลมาแล้วว่าที่เที่ยวมีที่ไหนบ้างเราพักตรงไหนถึงจะสะดวก ก็มาจบที่โรงแรม M1 อยู่แถวสถานี Yau Ma Tei เดินแค่ 100 เมตรก็ถึงสถานีและถนนใหญ่ ต้องนึกถึงแม่ก่อนกลัวจะเดินไกลแล้วเมื่อย พักที่นี่ 2 คืน รวม HK$1,467.94 ราคานี้ไม่รวมอาหารเช้า
ใกล้ถึงวันเดินทางก็ได้เวลาไปแลกตังค์ซักที ก่อนจะแลกก็เฝ้าดูเรทเงินมา 2 อาทิตย์เลยนะ ค่าเงินก็ขึ้นเอ๊า ขึ้นเอา รอให้มันลงมาซะทีเหอะ วันที่เหมาะไปแลกเงินต่างประเทศสำหรับเราคือวันอังคารหรือพุธนะ เท่าที่สังเกตุค่าเงินจะลงช่วงนั้นแล้วจะขึ้นตอนใกล้วันหยุด
แบงค์ฮ่องกงนี่สวยดีนะ รู้สึกชอบมันแปลกเพราะปกติแล้วจะเจอเป็นรูปคนซะมากกว่า
ถึงวันเดินทางกันแล้วเราบินกันด้วยสายการบินคาเธ่แปซิฟิก สายการบิน Full Service ประจำชาติฮ่องกง ออกจากกรุงเทพฯ 12.10 ถึง 15.55 ตามเวลาฮ่องกง ซึ่งจะเร็วกว่าบ้านเรา 1 ชั่วโมง อ้อ ก่อนการเดินทาง 24 ชั่วโมงเราสามารถเช็คอินออนไลน์เพื่อเลือกที่นั่งกันได้ก่อน พอวันจะบินก็แค่ไปดรอปกระเป๋าในช่องเชคอินออนไลน์ได้เลยเลย คือช่องสีส้มๆ วิธีรวดเร็วที่สุด ได้บทเรียนมาจากตอนไปยุโรป ต่อคิวนานมาก มีอีกวิธีคือเชคอินผ่านตู้คีออสก็จะได้บอร์ดดิ้งพาสมาเลยเหมือนกัน แต่จะเป็นกระดาษอ่อนๆ ไม่ใช่ของสายการบิน แต่เราชอบเก็บบอร์ดดิ้งพาสเลยขอผ่านกับตู้นี้
ได้เวลาเดินทางกันเแล้ว ที่นั่งเป็นแบบ 3 3 3 ที่นั่งกว้างมากสำหรับเรากับแม่สูงประมาณ 160 เข่าก็เหลือๆ เก็บกระเป๋าไว้ตรงที่วางเท้าก็ยังนั่งได้สบาย ปกติไม่ชอบเอากระเป๋าไว้ตรงนี้หรอก แต่อ่านรีวิวมาเยอะเค้าบอกว่ามักจะมีขโมยในคราบผู้โดยสารแฝงมาด้วย เราก็ไม่ประมาทดีกว่าไว้ที่วางเท้าเนี่ยแหละ ส่วนความบันเทิงมีหนัง เพลง สารคดีมากมาย ซึ่งก็ฟังไม่รู้เรื่องหรอก ไม่ค่อยมีอะไรไทยๆ เท่าไหร่ 555 มีที่ไฟสำหรับชาร์ทโทรศัพท์ด้วย
อาหารมาเสิร์ฟแล้ว แอร์บนเครื่องยิ้มแย้มรับแขกมาก ขออะไรก็หาให้หมด อาหารจำไม่ได้ว่ามีอะไรบ้างแต่เลือกข้าวมันไก่มา อร่อยมากเพราะหิว ฮ่าๆ ขนม ผลไม้ ถูกปากมาก นาทีนี้อะไรก็อร่อย มื้อแรกของวัน
กินเสร็จก็นอนแป็บๆ มาถึงฮ่องแล้ว รันเวย์วิวดีๆ ริมทะเล แต่เสียดายหมอกเยอะไปหน่อยมองไม่ค่อยเห็นอะไร
ช่วงผ่าน ตม. คนค่อนข้างเยอะแต่ก็ผ่าน ตม. ได้ไม่ยากเย็นอะไร เรากับแม่พึ่งมาครั้งแรก ไม่ได้ปั้มหรือติดสติ๊กเกอร์เข้าประเทศ แต่เป็นกระดาษแผ่นเล็กที่ปริ๊นออกมาไว้เหน็บในพาสปอร์ต
ออกมารับกระเป๋าเสร็จแล้วก็ออกมามีเจ้าหน้าที่รอแจก Voucher ต่างๆ ที่ไว้ใช้เป็นส่วนลดและบริการบนเกาะฮ่องกง เราอยู่ที่ ARRIVAL HALL A มองหา Counter A08 รับ Sim free ที่ลงทะเบียนไว้ คือ Sim นี้ใช้ได้ทั้งเน็ตทั้งโทรไม่เสียตังค์ซักบาท ทำไมมาเห็นตอนที่ซื้อ Sim ไปแล้วล่ะเนี่ย ส่วนรายละเอียดต่างๆ ก็ตามกระทู้นี้เลย http://pantip.com/topic/34000754 ตอนลงทะเบียนผ่านเว็บก็นัดเวลารับ Sim ยื่นพาสปอร์ตและโทรศัพท์ให้เจ้าหน้าที่ตั้งค่าให้เลยแค่นี้ก็ใช้เน็ตที่ฮ่องกงได้แล้ว
ไปต่อที่ Counter Octopus เพื่อซื้อบัตรเติมเงินยื่นพาสปอร์ต พร้อมบอกจำนวนบัตรที่ต้องการ ราคาบัตร 150 HKD ค่ามัดจำในบัตร 50 HKD ใช้ได้ 100 HKD เติมเงินได้ทุกๆ 50 HKD Counter หาไม่ยากเราซื้อที่ทางออกไปขึ้นรถบัส
วิธีการที่เข้าไปตัวเมืองฮ่องกงมีอยู่ 3 วิธี
1. นั่งรถบัสสาย S1 S56 ไปสถานี Tung Chung อยู่ใกล้สนามบินนิดนึงเพื่อไปต่อรถไฟใต้ดินเข้าเมือง
2. นั่งรถ Airport Bus ไปโรงแรม แต่ต้องดูป้ายรถด้วยนะว่าลงถูกรึเปล่า
3. นั่ง Airport Express วิธีนี้เข้าเมืองรวดเร็วที่สุด เพราะสถานีอยู่ในสนามบินแต่ราคาก็แพงพอประมาณ
เพราะฉะนั้นวิธีที่ง่ายที่สุดและประหยัดสำหรับเราก็คือวิธีนั่งรถไปลงที่สถานี Tung Chung แล้วนั่งรถไฟฟ้าเพื่อไปสถานีปลายทางที่เราจะไม่หลงแน่นอน
ออกจาก ARRIVAL HALL A มาเลี้ยวขวาไปทางอาคารจอดรถป้ายรถบัสหลายสายจะรวมกันตรงนี้ รอแป็บเดียวรถก็มาแล้ว พอขึ้นรถก็แตะบัตรวางกระเป๋าตรงที่วางแล้วก็หาที่นั่งไม่ถึง 10 นาทีก็ถึงปลายทางละ รวดเร็วมาก
รถจอดที่หลังห้าง
เดินทะลุห้างออกมาเจอสัญลักษณ์ MTR แล้วก็เข้าไปกันเลย
ตอนเย็นๆ เด็กๆ มาเล่นน้ำพุ บริเวณหน้าห้าง
ด้านหลังห้างคือบริเวณ Bus terminal
แล้วก็นั่งรถไฟยาวๆ เพื่อเข้าที่พักที่สถานี Yau Ma Tei ระหว่างทางก็เปลี่ยนรถที่สถานี Lai King ทีนึง พอถึงปลายทางจะออกทางออกไหนก็ได้เดินพอกันตามแผนที่เลย ค่ารถไฟถ้าใช้บัตร Octopus ก็ตกคนละ 16.9 HKD ถ้าราคาทั่วไปก็ 19.5 HKD
มาถึงโรงแรมแล้วทำการเชคอิน จะมีค่ามัดจำด้วย 1,000 HKD แพงใช้ได้ฮ่าๆ ใบเสร็จที่เค้าให้มาต้องเก็บดีๆ นะ เพราะตอนออกไม่มีใบนี้ไม่ได้คืนนะ เจอมาแล้วลืมไว้ในห้อง
ได้ห้องชั้น 16 หัวมุมเลย ที่นี่ใช้ระบบคีย์การ์ด front และลิฟท์จะแคบหน่อยไม่มีที่ให้นั่งรอข้างใน ต้องไปนั่งข้างนอก ลิฟท์เป็นแบบ 2 ประตู ขึ้นฝั่งนึงออกก็หันหลัง
มาถึงห้องแล้ว ห้องก็เล็กตามสไตล์ฮ่องกงแต่ดูดีนะ สะอาดและดูใหม่
แต่ห้องน้ำจะซีทรูไปหน่อย ตอนนี้ยังมัวๆ ลองเข้าไปแล้วอาบน้ำก็เห็นหมดนะ เวลาอาบก็ดึงม่านมาบังเอา แต่ก็ไม่ได้ช่วยไรมาก เพราะม่านมันบังอีกฝั่ง ถ้าเราดึงมาก็เหมือนฝืนมันมาต้องคอยจับไว้
ม่านนี่น่าจะย้ายมาไว้อีกฝั่งจะดีมาก
อุปกรณ์ในห้องน้ำที่มีให้คือไม่ขี้เหร่ สะอาดใหม่พอสมควร
จุดเด่นที่อยากนำเสนอก็คือ Handy เครื่องนี้ หรือจะเรียกว่าโทรศัพท์มือถือก็ได้ สามารถเอาไปใช้ข้างนอกได้ใช้โทรใช้อินเตอร์เน็ตหรือแม้แต่แชร์เน็ตยังได้เลยแจ่มมาก ฟรีไม่เสียค่าอะไรทั้งนั้น
วิวนอกห้องฝั่งถนน Waterloo ทางนี้จะเป็น MTR ทางออก B1, B2 และ D
วิวฝั่ง Portland มีสวนอยู่ใกล้ๆ ทางนี้จะเป็น MTR ทางออก C
เก็บกระเป๋าถ่ายรูปพอประมาณก็รีบออกไปดูไฟที่อ่าววิคตอเรีย เพราะใกล้ค่ำแล้ว ออกจากโรงแรมเลี้ยวซ้ายไปขึ้น MTR ประตู C เพื่อไปสถานี Tsim Sha Tsui ทางออก J
โผล่ขึ้นมาก็เดินตามทางไปเรื่อย จะมองเห็นพิพิธภัณฑ์ฮ่องกงไกลๆ เดินไปทางนั้นเลย
หน้าพิพิธภัณฑ์เดินเข้าไปข้างในเลย ด้านหลังจะเป็นอ่าววิคตอเรีย
Avenue of Stars คนมากมายล้นหลาม ทีนี้ก็หาที่ให้ตัวเองได้ดูไฟอย่างสะดวก ก็ได้แต่เดินไปเรื่อยๆ เพราะคนเยอะมากเข้าไปถึงข้างหน้าไม่ได้
รออยู่สักพักก็มีคนถอดใจกลับไปบ้างเราก็เลยได้ที เสียบแทนซะเลยรออยู่นานมากกว่าไฟจะเปิดถ่ายรูปรอไปเรื่อยๆ
ไฟเริ่มเปิดแล้วประมาณ 2 ทุ่มกว่าได้ เลทพอประมาณ ได้ยินเสียงเพลง Symphony มาแต่ไกล ไฟก็ค่อยเปิดตามจังหวะ ดูนานไปก็แอบเบื่อเหมือนกัน
ก็ทนดูจนจบนะ เพราะไม่เคยดูมาก่อนอาจจะมีอะไรตื่นเต้นไรประมาณนั้น
ตอนเดินกลับก็กลับพร้อมกับฝูงชนเหมือนกัน ต่อคิวข้าวถนน
ได้เวลาอาหารเย็น ไม่ว่าจะเข้าร้านไหนก็มีคนต่อคิวนอกร้านกันทั้งนั้น เราก็เลยต้องเดินไปเรื่อยๆ แม่ก็เริ่มหิวแล้ว สุดท้ายมาตายรังที่ Mcdonald ใช้บัตร Octopus จ่ายได้ส่วนลดนะ
กลับห้องพักผ่อนพรุ่งนี้เที่ยวต่อยาวๆ ทั้งวัน