สืบเนื่องจากตอนที่แล้วไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมที่ Repulse Bay มา เราก็กลับมาเริ่มต้นจากสถานี MTR Central เพื่อไปปลายทางสถานี Wong Tai Sin
พอเราลงรถบัสที่ Bus terminal เราก็จะเดินข้ามไปอีกฝั่งเพื่อไปขึ้นรถไฟ ระหว่างทางก็จะเจอผู้คนมากมาย น่าจะเป็นแรงงานต่างชาติมารวมตัวกันเพื่อพักผ่อน ทำอาหารหรือมีกิจกรรมอื่นๆ จะที่เคยบอกไปในตอนก่อนๆ ว่าทำไมเจอคนมากมายตามใต้ตึกแม้แต่สะพานลอย ที่นี่เค้ามีอะไรพิเศษรึเปล่า ก็ได้คำตอบแล้วว่า ที่ฮ่องกงที่พักมันเล็กมาก แทบจะทำกิจกรรมในนั้นไม่ได้เลย พอถึงวันหยุดเค้าก็มารวมตัวกันแบบนี้แหละ แบบอยู่กันจริงจังเลยนะ มีเตาแก๊สปิคนิคที่นอนพร้อม
ข้างล่างนั้นก็เยอะพอประมาณ ข้างบนก็ไม่ต่างกันเลยถ้ามองไปผ่านกระถางต้นไม้ก็ยังเห็นนั่งกันเต็มพื้นที่ เอาล่ะเราไปกันต่อ ขึ้นบันไดเลื่อนแล้วก็เดินข้ามสะพานลอยเพื่อมาอีกฝั่ง
ลงบันไดเลื่อนแล้วก็ลงไปที่สถานี MTR
จากสถานี MTR Central เพื่อไปปลายทางสถานี Wong Tai Sin เราต้องเปลี่ยนขบวนรถไปสาย Kwun Tong Line ที่สถานี Mong kok ใช้เวลาเดินทางประมาณ 23 นาที
พอมาถึงสถานี เราก็เดินออกไปที่ทางออก B Sik Sik Yuen Wong Tai Sin Temple
พอขึ้นมาด้านบนก็จะเจอทางเข้าวัด ใหญ่โตมองเห็นชัดเจน
เดินเข้ามานิดหน่อยจะเจอร้านค้าต่างๆ
วัดหวังต้าเซียน หรือ หว่องไท่ซิน (Wong Tai Sin Temple) เป็นวัดที่โด่งดังมากที่ฮ่องกง ได้รับอิทธิพลมาจาก ลัทธิเต๋า ศาสนาพุทธ และลัทธิขงจื๊อ ผู้คนนิยมมากราบไหว้เพราะเชื่อวัดนี้มีความศักดิ์สิทธิ์เรื่องการขอพรให้สมปรารถนา และยังเป็นวัดที่มักจะมาขอพรเรื่องความรักอีกด้วย
วัดหวังต้าเซียน หรือ วัดหว่องไท่ซิน (จีนกวางตุ้ง) เป็นวัดเก่าแก่อายุกว่าร้อยปี เป็นวัดลัทธิเต๋าที่สร้างเพื่ออุทิศให้แก่เทพเจ้าหวังต้าเซียน
ท่านเทพเจ้าหวังต้าเซียน เดิมท่านชื่อ “หว่องช้อเผ่ง” เป็นมนุษย์เดินดินธรรมดาคนหนึ่ง ที่มีจิตเมตตาต่อชาวโลก ท่านมีความกตัญญูต่อพ่อแม่สูงมาก และช่วยพ่อแม่ตั้งแต่เล็ก ทำงานดูแลเลี้ยงแพะ อยู่มาวันหนึ่งท่านได้พบกับนักพรต และนักพรตได้ชวนไปศึกษาร่ำเรียนวิชาบนภูเขาไกล ท่านหว่องช้อเผ่งก้อตัดสินใจตามนักพรตท่านนั้นไปศึกษาร่ำเรียนวิชา ท่านขยันหมั่นเพียรเรียนจนบรรลุ จนท่านสามารถเสกก้อนหินให้กลายเป็นแพะได้ เมื่อท่านได้ร่ำเรียนวิชาจนถ่องแท้แล้ว ก้อได้ลาอาจารย์ของท่านกลับมา ใช้วิชาความรู้ด้านสมุนไพร เพื่อบำเพ็ญประโยชน์ เดินทางรักษาประชาชนจีนที่เจ็บไข้ ตลอดจนผู้ที่เดือดร้อนไปทั่วทุกสารทิศ เมื่อเกิดโรคระบาดใหญ่ในประเทศจีน ท่านหวังต้าเซียนได้ใช้วิชาการแพทย์ จัดยาสมุนไพรให้แก่ชาวบ้านเพื่อต่อสู้กับโรคร้าย ตลอดอายุขัยทองท่าน ได้มีลูกศิษย์มากมายที่เคารพท่านและร่ำเรียนวิชาจากท่าน จวบจนประชาชนต่างยกย่องให้ท่านเป็นเทพหว่องไท่ซิน และได้ตั้งศาลเอาไว้เพื่อกราบสักการะ
เมื่อครั้งชาวจีนอพยพมายังเกาะฮ่องกง ได้อัญเชิญกระถางธูปของท่านมาด้วย และได้วาดรูปของท่านโดยหมึกและพู่กันจีนโบราณ เพื่อแสดงถึงตัวท่าน ทั้งหมดได้ตั้งสถิตย์ไว้ที่วัดหวังต้าเซียน เกาะเกาลูน ประเทศฮ่องกง จนถึงปัจจุบัน ต่อมาเกิดโรคระบาดใหญ่บนเกาะฮ่องกง ชาวฮ่องกงได้มาไหว้ขอพรจากเทพเจ้าหวังต้าเซียนและขอยาที่ทางวัดจัดไว้ไปต้มกินจนหายจากโรคระบาดครั้งนั้นมาได้ จึงทำให้ชาวฮ่องกงมีความศรัทธาต่อเทพเจ้าหวังต้าเซียนเป็นอย่างมาก
สิ่งหนึ่งที่ผู้คนศรัทธาและนิยมทำเมื่อมาถึงวัดหวังต้าเซียนได้แก่ การเสี่ยงเซียมซีในวิหารเทพเจ้าหวังต้าเซียน ซึ่งเชื่อกันว่าเซียมซีวัดหวังต้าเซียนมีความแม่นยำเป็นอย่าง
(ข้อมูลจาก Internet)
เข้ามาด้านในจะมีป้ายบอกลำดับหมายเลขการกราบสักการะ
1. เทพเจ้าหวังต้าเซียน
2. เจ้าแม่กวนอิม
3. ศาลเจ้าที่
4. เทพเจ้าแห่งความรัก (หลุคโหลว)
5. ศาลเจ้าขงจื๊อ
เดินเข้ามาก็จะเจอเทพเจ้าทั้ง 12
สำหรับการไหว้ จะใช้ธูป 9 ดอก โดยจะแบ่งปัก 3 จุด จุดละ 3 ดอก ก็คือเทพเจ้าหวังต้าเซียน เจ้าแม่กวนอิมและศาลเจ้าที่
พอไหว้เสร็จก็มาเซียมซี ใบเซียมซีที่เสี่ยงได้จะเป็นภาษาจีนและภาษาอังกฤษ เราสามารถให้เดินมาอีกด้านเพื่อให้คนแปลให้แต่ก็จะเสียตังค์ด้วยนะ
เราใช้เวลาอยู่ที่นี่ไม่นานนักไม่ได้เก็บทุกจุด และจะไปต่อที่วัดกังหันหรือวัดแชกงหมิว (Che Kung Temple) เพราะตอนนี้ก็เย็นมากแล้วเดี๋ยววัดจะปิดซะก่อน
นั่ง MTR จากสถานี Wong Tai Sin เพื่อไปเปลี่ยนรถสายสีฟ้าที่สถานี Kowloon Tong เพื่อไปยังสถานี Tai Wai
สถานีกว้างมาก เดินไกลสุดๆ เราออกทางออก B แล้วก็เดินออกจากสถานีเพื่อเดินไปที่วัด ประมาณ 600 เมตร ออกจากสถานี แล้วก็เลี้ยวซ้าย จะเห็นวัดสีแดงๆ นั่นคือปลายทางที่เราจะไป
เดินมุดถนนข้ามไปอีกฝั่ง มาถึงก็เย็นมากแล้วคนก็จะบางตาไปหน่อย
ตำนาน แชกงหมิว ศาลสถิตของท่านแชกง ซึ่งมีประวัติเล่าต่อกันมาว่า ขณะนั้นเองยังมีนักรบเอกชื่อ “แช กง” เป็นแม่ทัพปราบศึก ทุกแคว้นเขตแดนแผ่นดินใหญ่ต่างก็ยำเกรงต่อกำลังพลที่กล้าหาญในกองทัพของท่าน ยามที่ออกรบเพื่อต้านข้าศึกศัตรูทุกทิศทาง ทุกๆ ครั้ง ท่านใช้สัญลักษณ์รูปกังหัน 4 ใบพัดติดไว้ด้านหน้ารถศึกนำขบวนในกองทัพ เหล่าทหารกล้ามีความเชื่อว่าเมื่อพก พาสัญลักษณ์รูปกังหันนี้ไป ณ ที่ใดๆ กังหันนี้จะช่วยเสริมสิริมงคล นำพาแต่ความโชคดี มีอำนาจเข้มแข็ง เสริมกำลังใจให้แก่กองทัพของท่าน ชื่อเสียงในการนำทัพสู้ศึกของท่านจึงเป็นตำนานมาจนทุกวันนี้
ตามตำนานกล่าวว่า เคยมีโจรสลัดจะยกทัพมาปล้นหมู่บ้านซ่าถิ่น ชาวบ้านแตกตื่นอพยพขนข้าวของหนีตายกันหมด มีหญิงคนหนึ่งกำลังจะพาลูกหนีเช่นกัน ระหว่างทางเธอพบกับชายชราเคราขาวยาวเฟื้อย ลักษณะน่าเกรงขาม ถามไถ่เรื่องราวกับเธอ และชายชราได้บอกให้หญิงคนนั้นกลับไปยังหมู่บ้านและพับกังหันลมกระดาษ ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ นำไปเสียบไว้หน้าหมู่บ้าน ต่อมา โจรสลัดก็ยกพลผ่านหมู่บ้านนั้นไป ทำให้ผู้คนในหมู่บ้านอยู่รอดปลอดภัย ชาวบ้านต่างพากันเชื่อว่า ชายชราคนนั้นคือ นายพลแชกง และหมู่บ้านนั้นต่อมาก็ได้เป็นที่ตั้งของวัดกังหันลม
เป็นที่ร่ำลือถึงความศักดิ์สิทธิ์ เรื่องของกังหันลมที่พัดพาเอาสิ่งไม่ดีออกจากชีวิต เชื่อว่าการหมุนกังหันกลับทิศ จะช่วยหมุนชีวิตพลิกผันจากร้ายกลายเป็นดีได้
การไหว้เทพเจ้าแชกง
- เมื่อเข้าไปในศาลให้ยืนอยู่เบื้องหน้ารูปปั้นขนาดมหึมาของท่านแชกง
- อธิษฐานขอพรและมองหน้าท่าน อย่างมุ่งมั่น
- ทำพิธีหมุนกังหันแห่งโชคชะตา โดยใช้นิ้วชี้หมุนกังหันตามเข็มนาฬิกา
ถ้าชีวิตในปีที่ผ่านมาไม่ดี ให้ใช้มือซ้ายหมุนด้านซ้ายไปขวา
ถ้าชีวิตดีอยู่แล้วก็ให้หมุนกังหันกลับจากขวาไปซ้าย - เมื่อหมุนกังหันเสร็จแล้ว ตีกลอง อีก 3 ครั้ง ดังๆ เพื่อให้เป็นที่รับรู้ทั่วกันทั้งฟ้าดิน และให้พรนั้นสมประสงค์
ความหมายของใบพัดทั้ง 4
กังหันทั้ง 4 ใบหมุนไปมาได้ ช่วยดึงดูด นำพาสิ่งดีเข้ามาในชีวิต และปัดเป่าสิ่งไม่ดีพัดออกไป
- ใบที่ 1 เดินทางไปไหนมาไหนปลอดภัย
- ใบที่ 2 สุขภาพแข็งแรง อายุยืนยาว
- ใบที่ 3 โชคลาภ เงินทองไหลมาเทมา
- ใบที่ 4 คิดหวังสิ่งใดสมความปรารถนาทุกประการ
หลังจากเดินสายทำบุญขอพรมาทั้งวัน ภารกิจสุดท้ายของวันนี้ก็คือการมาเดินช้อปปิ้งที่ย่านมงก๊ก จากวัดแชกุงเราก็เดินกลับมาขึ้นรถที่สถานีเดิม Tai Wai Station สายสีฟ้า แล้วก็มาเปลี่ยนขบวนสายสีเขียวที่ Kowloon Tong Station 3 ป้ายก็ถึงสถานี Mong Kok ประมาณ 17 นาที ใช้บัตร Octopus 8.7 HKD แต่ถ้าซื้อตั๋วก็ 10 HKD